วันพฤหัสบดีที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2553

HDR Camera Enabler สำหรับ iPhone 3G และ 3GS


HDR (High Dynamic Range) ที่ช่วยให้ภาพถ่ายคุณมีรายละเอียดเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการถ่ายแบบย้อนแสง หรือส่วนของภาพมีความต่างของแสงมาก เช่นมีทั้งมืดและสว่างมาก ซึ่งคุณสมบัติของการถ่ายภาพแบบ HDR จะมีในระบบปฎิบัติการ iOS4.1 ตัวใหม่ น่าเสียดายที่ความสามารถนี้ถูกจำกัดไว้สำหรับ iPhone 4 เท่านั้น แต่คนที่ใช้ iPhone 3G หรือ 3GS ไม่ต้องเสียใจ เพราะโปรแกรม HDR Camera Enabler ที่อยู่ใน Cydia ช่วยดึงความสามารถนี้มาให้คุณใช้งานได้แล้ว แน่นอนเครื่อง iPhone ของคุณต้องติดตั้งระบบปฎิบัติการ iOS4.1 ตัวใหม่ และทำการ Jailbreak เพื่อให้ติดตั้งโปรแกรม Cydia ได้ จากนั้นก็เปิดโปรแกรม Cydia แล้ว search หาโปรแกรม HDR Camera Enabler ติดตั้งแล้วก็ใช้งานได้เลย
Credits : redmondpie.com http://gadget4thai.com/?p=1576 from Smart-Mobile

แกะกล่อง iPod Touch 4G 2010


มาแล้วครับ iPod Touch ตัวใหม่ ที่ปรับปรุงจากรุ่นเดิมเกือบทั้งหมด โดยคุณสมบัตินั้นแทบเรียกได้ว่า จับ iPhone 4 มาใส่เลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ CPU ความเร็วสูงตัวเดียวกับ iPad และ iPhone 4 กล้องสองตัวพร้อมการใช้งาน facetime และบันทึกวิดีโอความละเอียดสูง HD 720p หน้าจอความละเอียดสูง Retina Display เครือข่ายเกม Online อย่าง Game Center
อุปกรณ์ที่มีมาให้ใน iPod Touch นอกจากตัวเครื่อง iPod Touch ก็มีสาย Sync/Charge คู่มือการใช้งานเบื้องต้น หูฟัง Stereo ที่เป็นหูฟัง iPod Stereo ธรรมดานะครับ ไม่ได้เป็นหูฟังพร้อมรีโมทและไมค์แบบ iPod Touch รุ่นที่แล้วหรือของ iPhone ซึ่งก็คงเป็นการลดต้นทุน ทำให้ตั้งราคา iPod Touch รุ่นนี้ได้ถูกกว่ารุ่นเดิมด้วยซ้ำ ถึงแม้จะมีการเพิ่มคุณสมบัติใหม่ๆ เข้ามาเพียบ
ตัวเครื่องด้านหลัง สิ่งที่แตกต่างจากรุ่นที่แล้วคือส่วนของพลาสติกสีดำสำหรับรับสัญญาณเดิมในรุ่นที่แล้ว ถูกเปลี่ยนมาเป็นที่อยู่ของกล้องดิจิตอลแทน กล้องดิจิตอลของ iPod Touch มีความละเอียด 960×720 พิกเซล หรือ 0.7 ล้านพิกเซล ซึ่งก็น่าผิดหวังถ้าเปรียบเทียบกับกล้องของ iPhone 4 ที่มีความละเอียดสูงถึง 5 ล้านพิกเซล แต่ก็ยังคงใช้ถ่ายวิดีโอควาามละเอียดสูง HD 720p เช่นเดียวกับ iPhone 4 ได้ ข้างๆ กล้องด้านหลังจะเป็น microphone สำหรับบันทึกเสียงและใช้งาน FaceTime ถัดขึ้นไปจากกล้องดิจิตอลจะเป็นปุ่มเปิดปิดเครื่อง ทางด้านขวาจะเป็นปุ่มเร่งและลดเสียง ส่วนวัสดุที่ใช้ด้านหลังของ iPod Touch ยังเหมือนเดิมคือเป็นโลหะมันวาว ดูสวยงามและหรู แต่ข้อเสียคือเป็นรอยนิ้วมือ และรอยข่วนง่ายมาก
ด้านล่างจะเป็นลำโพงขนาดเล็ก ซึ่งเสียงไม่ดังมากนัก ในการใช้งาน FaceTime ถ้าอยู่ในที่มีเสียงรบกวน อาจจะต้องใช้หูฟังแทน ถัดมาเป็นช่อง Dock Connector และช่องเสียบหูฟัง
ถึงจะเพิ่มคุณสมบัติใหม่ๆ เข้ามาเพียบ แต่ขนาดของ iPod Touch ไม่ได้ใหญ่ขึ้นจากรุ่นเดิม แถมยังบางลงกว่าเดิมซะด้วยซ้ำ ความบางนั้น พอๆ กับ iPod nano รุ่นแรกที่เราเคยทึ่งกับความบางเลยทีเดียว iPod Touch มีขนาด 111 x 58.9 x 7.2 mm และเบาเพียง 101 กรัม ความบางนั้นหลายคนบอกว่า บางดี แต่สำหรับผม ผมว่ามันจับไม่ถนัดมือ แถมตัวเครื่องก็ลื่นๆ แนะนำให้ใส่เคสดีกว่าครับ
หน้าจอ Retina Display ของ iPod Touch นั้นคมชัดด้วยความละเอียดสูงถึง 960 x 640 พิกเซล ถึงจะไม่มีคุณสมบัติ IPS เช่นเดียวกับ iPhone 4 ซึ่งทำให้มุมมองและความสว่างของหน้าจอ iPod Touch ด้อยกว่า iPhone 4 เล็กน้อย แต่ในการใช้งานจริงแทบไม่เห็นความแตกต่าง จอของ iPod Touch ยังคงเป็นจอที่มีความสว่างและความละเอียดสูงอยู่ดี
iPod Touch มาพร้อมกับระบบปฎิบัติการตัวใหม่ iOS 4.1 ใช้ CPU ARM Cortex A8 ความเร็ว 1GHz เช่นเดียวกับ iPad และ iPhone 4 มีหน่วยความจำ 256MB (iPhone 4 512MB, iPad 256MB) ทำให้ใช้งานได้รวดเร็ว และสนับสนุนระบบ Multitasking มี Bluetooth และ WiFi ในตัว แต่ไม่มีระบบนำทางผ่านดาวเทียม การระบุพิกัดใช้งานร่วมกับโปรแกรม Google Maps หรือ GPS อื่นๆ ยังต้องอาศัยค่าพิกัดของ WiFi Hotspot ที่ใช้งานอยู่ หน่วยความจำภายในมีให้เลือก 3 ขนาดคือ 8GB ราคา 7,900 บาท 32GB ราคา 10,400 บาท และสูงสุดถึง 64GB ราคา 13,900 บาท
เช่นเดียวกับ iPhone 4 กล้องดิจิตอลความละเอียด VGA ของ iPod Touch ที่ใช้สำหรับ FaceTime ก็สามารถใช้ถ่ายรูปตัวเองได้ดี ส่วนกล้องดิจิตอลด้านหลังนั้น มีความละเอีดยเพียง 0.7 ล้านพิกเซล สำหรับภาพนิ่งแล้ว คงละเอียดและคมชัดสู้ iPhone 4 ที่มีความละเอียดสูงถึง 5 ล้านพิกเซลไม่ได้ แต่ก็ยังมีคุณสมบัติของระบบสัมผัสหน้าจอเพื่อปรับค่า exposure (ไม่มีระบบ Tab to Focus เหมือน iPhone 3GS หรือ iPhone 4) และถ่ายวิดีโอได้ดี ที่ความละเอียดสูงถึง HD 720p พร้อมตัดต่อด้วยโปรแกรม iMovie ได้เลย และใน iOS 4.1 ใหม่ก็อนุญาติให้คุณ upload ไฟล์ความละเอียดสูงขึ้น YouTube หรือ MobileMe ได้แล้ว
เมนูการใช้งานโปรแกรมถ่ายรูปเหมือนกับ iPhone 4 แต่ไม่มี HDR ให้เลือกใช้งาน
ตัวอย่างวิดีโอจาก iPod Touch 4G
Credits : http://gadget4thai.com/?p=1581 from Smart-Mobile

iOS 4.2 Beta มาแล้วนะครับ iPad มี Thai Keyboard 4 แถว

Image


แอปเปิ้ลปล่อย iOS 4.2 ให้เหล่า Developer แล้ว โดยฟีเจอร์เด่น ๆ สำหรับเวอร์ชั่นนี้จะมี AirPrint หรือการสั่งพิมพ์เอกสาร และที่สำคัญมีคีย์บอร์ดภาษาไทยอย่างเป็นทางการมาแล้ว แถมเป็น 4 แถวซะด้วย
สำหรับ iOS 4.2 beta ที่เพิ่งถูกปล่อยออกมาหมาด ๆ ถือว่าเป็น iOS ที่คนใช้ iPad ในไทยเฝ้าลุ้นกันตัวโก่งว่าคีย์บอร์ดไทยจะมาด้วยหรือไม่ และถ้ามาจะหน้าตาเป็นเช่นไร และจากที่เราเคยรายงานข่าวว่าโอกาสคีย์บอร์ดไทยสำหรับ iPad แบบ 4 แถว 50/50 ตอนนี้มีมาให้เห็นแล้วว่าคีย์บอร์ดไทยแบบเป็นทางการเป็น 4 แถวจริง แต่ๆๆ…เลย์เอาท์คีย์บอร์ดยังเพี้ยนอยู่บ้างเมื่อเทียบกับเลย์เอาท์คีย์บอร์ดภาษาไทยปกติ (ดูรูปด้านล่างประกอบ) สำหรับคีย์บอร์ดบน iPhone/iPod touch ยังเป็น 3 แถวเช่นเดิมไม่มีการเปลี่ยนเป็น 4 แถวแต่อย่างใด
สำหรับฟีเจอร์ใหม่ที่มีใน iOS 4.2 อย่าง AirPrint ส่วนตัวผมยังไม่ได้ลองว่าใช้งานดีแค่ไหน เพราะผมไม่มีปรินเตอร์ที่รองรับการพิมพ์ผ่าน Wi-Fi และแอพฯในชุด iWork อย่าง Pages, Keynote, Numbers ก็ยังไม่มีการอัพเดทให้รองรับการใช้ AirPrint ในตอนนี้  ส่วนใน Safari มีการเพิ่มเลขจำนวนหน้าที่เปิดเว็บเข้าไป(สักที) ใน Mail มี All Inboxes และสุดท้ายมี Game Center เข้ามาด้วยตามที่แอปเปิ้ลเคยแจ้งไว้ก่อนหน้านี้ สำหรับฟีเจอร์ Multitasking บน iPad รูปแบบการใช้งานก็คือ ๆ กับบน iPhone แต่หน้าตาในส่วน iPod Control จะมีแถบลดแสงหน้าจออยู่ทางด้านซ้ายและปุ่มล็อกหน้าจอที่ล็อกได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอนมาด้วย ส่วนปุ่มล็อกหน้าจอที่เป็นฮาร์ดแวร์บริเวณด้านขวาของเครื่องก็กลายเป็นว่าตอนนี้ถูกเปลี่ยนหน้าที่เป็นกลายเป็นปุ่มเปิด-ปิดเสียงไปเสียแล้ว และสุดท้ายฟีเจอร์ Folders ใน iPad จะสามารถใส่แอพฯได้มากถึง 20 แอพฯในแต่ละโฟลเดอร์
สำหรับกำหนดการของ iOS 4.2 แอปเปิ้ลจะปล่อยเวอร์ชั่นเต็มในเดือนพ.ย.









Credits : http://www.siampod.com/2010/09/16/ios-4-2-beta-come-with-official-thai-keyborad-for-ipad/?utm_source=feedburner&utm_medium=twitter&utm_campaign=Feed%3A+siampod+%28SiamPod%29 
from Smart-Mobile

Blogger Day with TrueMove iPhone4 (มาทีหลังดังกว่า)

เมื่อซักครู่ผมเปิดดู Twitter ซึ่งผม Follow Trueconvergence ไว้ 
มีข่าวคราวมาแล้วครับสำหรับรายละเอียดการเข้าร่วมงาน iPhone 4

Image

Image

และนี่คือรายละเอียดสำหรับวิธีการเข้าร่วมงานครับ

Image

http://trueconv.truelife.com/blog2/entry/17161



อ่ะแถมให้ จาก @siampod
Image



Credits : Smart-Mobile

Ais Dtac ย้ายค่ายโดยใช้เบอร์เดิมได้แล้ว!!

สำหรับ Dtac

ตามมาติดๆสำหรับค่ายใบพัดฟ้า dtac ประกาศเรื่อง ย้ายค่ายเบอร์เดิม สามารถทำได้แล้วเช่นกันวันนี้ เนื้อใหญ่ใจความก็คงเป็นเหมือนของ ais ที่ผมบอกไปเมื่อบทความก่อนหน้านะครับ หลักการถ้าใครยังไม่เข้าใจนะในเรื่องการย้ายค่ายก็คือ ถ้าใครใช้ค่ายปัจจุบันอยู่จะย้ายไปค่ายใดๆก็จะสามารถทำได้ทันที แต่ตอนนี้ที่ประกาศแล้วมี 2 ค่ายคือ ถ้าการย้ายจากค่ายเดิมไป dtac, ais ก็ทำได้เลย ส่วนของทาง truemove นั้นยังไม่ประกาศเป็นทางการนะเท่าที่ผมเช็คดู

วิธีการย้ายมายังค่าย dtac
สำหรับขั้นตอนจะเหมือนๆกันส่วนใหญ่ก็จะเป็นการเตรียมเอกสารว่าต้องใช้อะไรบ้างซึ่งจะต้องเตรียมให้ครบก่อนไปติดต่อนะจะได้สะดวก สำหรับระยะเวลาก็จะใช้ประมาณ 3 วันและเสียค่าธรรมเนียมด้วย 99 บาท
รายละเอียดตามนี้ครับ 
http://www.dtac.co.th/mnp/
สำหรับ Ais 

เป็นข่าวดีสำหรับใครหลายๆคนที่ต้องการย้ายค่อยแต่ยังต้องการใช้เบอร์เดิมซึ่งผมมองว่าค่อนข้างที่จะเป็นประโยชน์มากๆสำหรับผู้บริโภคนะครับ ที่ต่อไปจะไม่ต้องเปลียนเบอร์บ่อยๆแล้ว และบริการแจกซิมฟรีน่าจะลดลงไปเรื่อยๆนะ ^^ เดี่ยวมาทำความรู้จักสักเล็กน้อยว่าย้ายค่ายแต่ไม่เปลี่ยนเบอร์นี้ต้องทำอะไรยังไง

คำศัพท์ที่เราจะได้เจอนั่นคือก็ MNP นั้นย่อมาจาก Mobile Number Portability ซึ่งหมายถึง”บริการคงสิทธิหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งเป็นบริการที่อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ เคลื่อนที่ให้ไม่ติดข้อจำกัดของการใช้งานหมายเลขเดิม โดยสามารถนำหมายเลขเดิมที่ใช้งานอยู่ โอนย้ายไปยังผู้ให้บริการรายอื่นได้” ที่มา ais

ตรงตัวครับหัวใจที่หลายคนต้องการย้ายค่ายอาจจะเบื่อละ หรือว่าทางที่ทำงานต้องการให้ใช้เครือข่ายนี้เท่านั้นจะได้โทรหากันได้ราคาถูก อะไรประมาณนี้ครับ

แล้วทำอย่างไรหละถึงจะย้ายค่าย หรือว่าวิธีการย้ายค่ายเบอร์เดิม
ง่ายครับเดินไปที่ทำการซึ่ง ais ได้เปิดไว้หลายที่ โดยช่องทางที่เปิดรับแจ้งความจำนง คือ เอไอเอส คอลเซ็นเตอร์ เอไอเอส ช็อป เซเรเนดคลับ ร้านเทเลวิซ และเทเลวิซเอ็กเพรสทั่วประเทศ

หมายถึงถ้าใครอยากจะย้ายจาก dtac, true ไปยังค่าย ais ก็ไปติดต่อได้แล้วทางเจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการให้ครับ
รายละเอียด 
http://www.ais.co.th/mnp/th/



Credits : Smart-Mobile

วันอังคารที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2553

iUpdate : Windows Live Messenger 1.1 iPhone อัพเดตแล้วครับ

แอปพลิเคชันที่เป็นทางการของ Windows Live Messenger ที่พัฒนาโดย Microsoft สำหรับรายละเอียดและวิธีการใช้งานของแอปพลิเคชันตัวนี้เพื่อนๆสามารถติดตามอ่านชมได้ที่ Windows Live Messenger : MSN สำหรับ iPhone มาแล้วตัวจริง สำหรับเวอร์ชันแรกที่ออกมานั้นก็ทำได้ดี แต่ว่าก็ยังมีบัคอยู่บ้าง เช่นการทำงานยังคงช้าอยู่ยิ่งใครมี contact เยอะๆยิ่งจะโหลดนานหน่อย มาดูกันว่า Windows Live Messenger 1.1 มีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง บอกได้อย่างเดียวว่าเยอะพอควร

Image

การเปลี่ยนแปลงใหม่สำหรับ Windows Live Messenger 1.1 มีดังนี้

รองรับ Fast-switching หรือการสลับแอปใน iOS 4 แล้ว เวอร์ชันเดิมยังไม่มี
Facebook chat มีข้อแม้ว่าต้องเข้าไปเปิดใช้งานที่ http://profile.live.com/Services ซึ่งตอนนี้สามารถใช้งานได้แค่ US, UK, France, Germany, Brazil และ Russia เท่านั้น สำหรับไทยก็ต้องรอตามเคย
Friends list filter
Hide off-line จุดนี้สามารถตั้งค่าไม่ให้แสดงรายชื่อคน Offline ได้แล้วครับ ตั้งค่าที่ Settings> Messenger> Show offline contacts> OFF
ปรับเปลี่ยนสถานะได้ง่ายขึ้น
รองรับ 31 ภาษารวมทั้งไทยด้วย
การตั้งค่าไม่ให้แสดงชื่อคนที่ออฟไลน์ Settings> Messenger> Show offline contacts> OFF

เลือกปิดเอาไว้ต่อไปเวลาล็อคอินเพื่อนที่ไม่ได้ออนเราก็จะมองไม่เห็นครับ

Image

ส่วนการฟิลเตอร์หรือการกรองรายชื่อนั้น ทำได้โดยเข้าไปที่เมนู Friends ที่ตำแหน่งบนสุดรองจาก Search Friends มันมีจะกลุ่มที่เราจัดเอาไว้ หากเราจะเปิดดูแต่ละกลุ่มก็เลือกกดได้จากที่นั่นเลย สะดวกขึ้นมากโดยไม่ต้องเลื่อนลงไปเรื่อยๆ

Image

เวอร์ชันนี้ถือว่าทำได้ดีขึ้นครับ แต่ใครที่มีรายชื่อเพื่อนเยอะๆแบบผมต้องทำใจหน่อยว่ามันต้องโหลดนานหน่อยนะ

credit : http://www.iphonemod.net from Smart-Mobile

มาแล้วคู่มวย iPhone 4 vs iPod Touch 4G ใครเร็วกว่ากัน

เรามาชม คู่มวย ที่สูสี กันดีกว่า

จากคำถามใน Facebook ถามเอาไว้ว่าระหว่าง iPhone 4 และ iPod Touch 4G นั้นใครเร็วกว่ากัน เมื่อดูไส้ในแล้วทั้งสองใช้ CPU A4 เหมือนกันแต่ iPhone 4 มี Ram 512MB แต่ว่า iPod Touch นั้นมีเพียง 256MB เท่านั้น วีดีโอด้านล่างเปรียบเทียบความเร็วของทั้งสองตัวให้ได้ชมกันติดตามได้เลย ครับ



http://www.youtube.com/watch?v=qlfvQZCSuzY

ตารางเปรียบเทียบสเปคของ iPhone 4 และ iPod Touch 4G

Image

Credit : 
http://www.iphonemod.net/iphone-4-vs-ip ... est-2.html from Smart-Mobile

วันจันทร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2553

iSTUDIO กำหนดวันจำหน่าย NEW iPOD แล้ว

iSTUDIO กำหนดวันจำหน่าย NEW iPOD แล้ว
16 09 2010 15:00 พร้อมกันทุกสาขา
Image

Credits : http://www.istudio.in.th/mainpage/index.php from Smart-Mobile

[iTip]แปลง iPod nano ตัวใหม่เป็น iWatch กันเถอะ !!

จากไอเดียแก็ดเจ็ต (Gadget) ที่มีการเผยแพร่บนอินเทอร์เน็ตเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นั่นคือ แนวคิดที่จะเปลี่ยน iPod Nano ให้กลายเป็นนาฬิกาข้อมือ โดยเรียกมันซะใหม่ว่า iWatch ล่าสุดไอเดียดังกล่าวเป็นจริงแล้ว

Image
ดีไซน์ของบริษัทแรกชื่อว่า 
iLoveHandles โดยใช้ชื่อ Rock Band แนวคิดในอการออกแบบก็ง่ายมาก เพียงแค่ทำสายรัดนาฬิกาข้อมือที่มาพร้อมกับรอยเว้าบนสาย โดยเมื่อใช้คลิปที่อยู่ด้านหลังของ iPod Nano หนีบเข้าไปตรงบริเวณนี้ ผลลัพธ์นอกจากจะทำให้ iPod Nano อยู่ตำแหน่งที่เหมาะสมบนสายรัดข้อมือแล้ว มันยังช่วยล็อคตัวเครื่องไม่ให้เลื่อนไปมาอีกด้วย เพียงแค่นี้เจ้าของ iPod Nano รุ่นใหม่ก็ได้นาฬิกาข้อมือที่ใช้ฟังเพลงได้แล้ว สนนราคาอยู่ที่ 19.95 เหรียญฯ หรือประมาณ 680 บาท

Image
นอกจากจะมีดีไซน์ที่เป็นแค่สายรัดนาฬิกาข้อมือโดยบริษัท Rock Band แล้ว ยังมีดีไซน์ iWatch ของอีกเจ้าหนึ่งชื่อว่า 
Incipioซึ่งแทนที่จะออกแบบเป็นแค่สายรัดนาฬิกาข้อมือ บริษัทนี้เลือกที่จะออกแบบเป็นเคสแข็งที่ป้องกัน iPod Nano ไปด้วยพร้อมกัน โดยเรียกมันว่า Linq ซึ่งนอกจากจะทำให้มันดูเหมือนนาฬิกาข้อมือมากขึ้นแล้ว ยังดูสวยงาม และแข็งแรงกว่าอีกด้วย อย่างไรก็ตามยังไม่มีการเปิดเผยเรื่องราคา และกำหนดวางตลาดของ Linq ออกมาแต่อย่างใด? อีกหนึ่งไอเดียที่ซ่อนอยู่ภายใต้การเปลี่ยน iPod Nano เป็นนาฬิกาข้อมือก็คือ การใช้เครืองเล่น MP3 แทนนาฬิกาไปด้วยในตัวนั่นเอง


Credits : ARIP from Smart-Mobile

[News] เปิดจอง iPhone 4 ภายในสัปดาห์นี้ (ไม่รู้จริงหรือมั่ว)


ไม่รู้ว่าจริงเท็จแค่ไหนนะครับแต่เตรียมตัวเตรียมตังก์ไว้ให้ดีครับ :biggrin: 

หลังจากที่ทั้ง 3 ค่ายขึ้นหน้าเว็บ “เตรียมพบ iPhone 4 เร็ว ๆ นี้” โดยพร้อมเพรียงแล้ว ถึงตอนนี้สำหรับคนที่กำลังรอซื้ออยู่ก็อยากรู้ว่าแต่ละค่ายจะเริ่มเปิดให้ จองเครื่องซื้อเครื่องกันได้เมื่อไหร่

สำหรับการเปิดจอง iPhone 4 ถ้าระบบไม่เสียหรือไม่มีเหตุด่วนให้ต้องเลื่อน บางค่ายน่าจะเปิดให้จอง iPhone 4 ผ่านทางหน้าเว็บได้ในช่วงกลางสัปดาห์นี้ ส่วนจะขึ้นหน้าเว็บให้จองเวลากี่โมงไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ คงต้องจับตาดูกันหรือเช็คข้อมูลกันเป็นระยะ ๆ ว่าจะขึ้นมาเวลาใดของช่วงวัน สุดท้ายมีความเป็นไปได้เล็กน้อย(มาก)ว่าอาจจะขึ้นระบบจองพร้อมเพรียงกันทั้ง 3 ค่ายในวันเดียวกัน

สำหรับหน้าเว็บการจอง iPhone 4 ถ้าดูจากของทรูมูฟเพียงเจ้าเดียวที่ตอนนี้ยังมีลิงค์เก่าดั้งเดิมตั้งแต่ สมัย iPhone 3GS อยู่ในเว็บ ทำให้เป็นที่น่าจับตาว่าครั้งนี้ iPhone 4 จะยังใช้ลิงค์เดิมอยู่หรือไม่ โดยลิงค์สำหรับการจอง iPhone 3GS ของทรูมูฟทั้งหมดเมื่อครั้งก่อนเท่าที่ตรวจสอบยังอยู่ครบทุกลิงค์ (หน้าเว็บการจอง iPhone 3GS ครั้งก่อนของทรูมูฟ) ส่วนดีแทคและเอไอเอสด้วยความที่ย้งไม่เคยมีการเปิดจอง iPhone ที่หน้าเว็บมาก่อนทำให้ต้องรอดูกันต่อไปว่าจะเปิดให้จองในเว็บรูปแบบใด

ด้านราคาจากที่เคยลงข่าวไปว่าเครื่องเปล่าน่าจะมีราคาราว ๆ 24,500 สำหรับรุ่น 16GB และ 27,500 บาท สำหรับรุ่น 32 GB ข้อมูลล่าสุดเป็นได้ว่าราคาสำหรับเครื่องที่ซื้อพร้อมเปิดใช้บริการแพ็กเกจ ของแต่ละค่ายน่าจะมีราคาอยู่ราว 23,xxx บาทหรืออาจจะตำ่กว่าเล็กน้อยสำหรับรุ่น 16GB ส่วนรุ่น 32GB สัดส่วนราคาน่าจะเพิ่มมาอีกราว ๆ 3,000 บาท โดยราคาทั้งหมดเท่าที่มีข้อมูลตอนนี้คาดว่าจะเป็นราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม แล้ว ซึ่งถ้าเป็นราคาประมาณการตามข้างต้นจริงก็เรียกว่ายิ้มทั้งคนขายและคนซื้อ

ข่าวคราวทางด้านเอไอเอสพอจะมีเกี่ยวกับลูกค้า VIP ที่มีข้อมูลกระเซ็นออกมาเล็กน้อยว่าลูกค้ากลุ่มนี้อาจจะได้สิทธิ์พิเศษซื้อ iPhone 4 ต่ำกว่าราคาปกติเล็กน้อย ส่วนตัวผมไม่ได้ใช้เอไอเอสเลยไม่ทราบว่าลูกค้า VIP ของ ais เป็นกลุ่มใดหรือต้องเป็นลูกค้า Serenade ระดับใด
Credits :  http://www.siampod.com from Smart-Mobile

วันอาทิตย์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2553

Review : CPU iPod Touch 4g

ลังจากที่แอปเปิ้ลเปิดตัว iPod Touch 4G ไปเมื่อต้นเดือนกันยายน 2010 ที่ผ่านมาตอนนี้ iPod Touch 4G นั้นได้วางจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้วตามร้าน Apple Store (คาดว่าที่บ้านเรายังไม่มีหากมีวางขายอย่างเป็นทางการจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง) ในข้อมูลเกี่ยวกับ iPod Touch 4G ผมได้สรุปเอาไว้ให้อ่านแล้วที่ 7 ความสุดยอดของ iPod Touch 4G ที่ควรรู้ก่อนซื้อ ท่านสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ แต่สำหรับวันนี้มีวีดีโอรีวิว iPod Touch 4G ตัวเป็นๆให้ได้ชมกันจุดเด่นที่เห็นได้จากภายนอกของตัว iPod Touch 4G จะมีดังนี้ครับ

> บอดี้ค่อนข้างที่จะบางมากๆ ซึ่งเสี่ยงต่อการที่จะหยุดมือและตกลงพื้นได้ แถมทราบมาว่าค่าซ่อมจอแพงหน้าดู
> ด้านหน้ามีกล้อง
> ด้านหลังมีกล้องหลัง ความละเอียด 1ล้านพิกเซล ไม่ละเอียดเท่ากับ iPhone 4 นะ ได้แจ้งให้ทราบก่อนหน้าแล้ว
> ด้านล่างมีลำโพง(คาดว่าจะมีไมด์ด้วย), ตัว 3o Pin connector และที่เสียบหูฟัง
> ส่วนด้านข้างซ้ายมีปุ่มเพิ่ม-ลดความดังของระดับเสียง
> ด้านบนมีปุ่มเปิด-ปิด

สำหรับด้านในนั้นประสิทธิภาพที่เห็นได้ชัดเจนคือเรื่องความเร็วของ CPU A4 ที่แรงพอสมควร ส่งผลให้ iPod Touch 4G มีการประมวลผลได้ค่อนข้างที่จะเร็ว หากใครว่า iPod Touch 3G เร็วมากแล้วแล้วนะรุ่นนี้เร็วกว่าอีกครับ ทดสอบเล่นเกมส์รถแข่งเรื่องกราฟฟิกนี่เหลือเกินจริงๆ สบายมาก เชิญชมได้เลยครับ



http://www.youtube.com/watch?v=WTWEPLwm0r0


Credits : http://www.iphonemod.net/vdo-review-ipod-touch-4g.html from Smart-Mobile

แกะกล่องรีวิว iPod nano 2010 (Sixth-Generation)

Credits : http://gadget4thai.com/?p=1534


เพิ่งได้รับของเมื่อเช้าก็แกะกล่องมาให้ชมกันก่อนเลยครับกับ iPod nano รุ่นล่าสุด 2010 ซึ่งก็เป็นรุ่นที่ 6 แล้วสำหรับ iPod nano ที่เปลี่ยนรูปร่างหน้าตามาตามแต่ละรุ่น ซึ่งหน้าตาในรุ่นนี้ผมว่าเหมือน iPod shuffle รุ่นก่อนที่เป็นลักษณะตัวเครื่องเป็นคลิบหนีบ ตัดส่วนของ Click Wheel ออกไปแต่เพิ่มหน้าจอสัมผัสเข้ามาแทนเพื่อให้คุณควบคุมการเล่นเพลงด้วยปลายนิ้ว ทำให้ตัวเครื่องมีขนาดเล็กลงกว่า iPod nano รุ่นเดิมมาก ตัดส่วนของกล้องวิดีโอและการเล่นวิดีโอออกไป
เริ่มจากแกะกล่องเลยนะครับ ตัวกล่องมีขนาดไม่ใหญ่ไปกว่าตัว iPod nano เท่าไหร่ ยังกับกล่องแหวนน่ารักดีครับ ภายในก็มีตัวเครื่อง iPod nano สายชาร์จและโอนถ่ายข้อมูล คู่มือการใช้งานเบื้องต้น และหูฟัง Stereo
ตัวเครื่อง iPod nano นี่เล็กสมชื่อจริงๆ โดยมีขนาดเล็กเพียง 37.5 x 40.9 x 8.78 mm และหนักเพียง 21.1 กรัมเท่านั้น หน้าจอมีขนาด 1.54 นิ้ว ความละเอียด 240 x 240 พิกเซล มีขนาดความจุให้เลือกใช้งานสองขนาดคือ 8GB ราคา 5,400 บาท และ 16GB ราคา 6,600 บาท สิ่งที่แตกต่างจากรุ่นที่แล้วนอกจากหน้าตาและขนาดตัวเครื่องแล้ว รุ่นใหม่ไม่สามารถเล่นไฟล์วิดีโอได้ (มีข่าวลือว่าอาจจะสนับสนุนได้ในอนาคต แต่ใครจะมานั่งดูวิดีโอจากจอเล็กๆ ละ ถ้าต่อออกจอภายนอกก็ว่าไปอย่าง) ตัวส่วนของกล้องวิดีโอออกไป แล้วปุ่ม Click Wheel ซึ่งทำให้สามารถย่อตัวเครื่องลงมาได้เล็กลง โดยเปลี่ยนมาใช้หน้าจอแบบสัมผัสในการควบคุมการเล่นเพลงแทน แต่ถึงจะมีขนาดเล็กลง แต่ความสามารถหลายอย่างก็ยังและถูกใส่เข้ามาเพิ่มเช่น
- ระบบ Accelerometer ที่ให้คุณเขย่าตัวเครื่องเพื่อเปลี่ยนเพลง
- Genius Mix เหมือนเป็น DJ ส่วนตัวที่คอยเลือกเพลงให้คุณฟัง
- FM Radio ที่ใช้งานคู่กับหูฟัง ให้คุณฟังวิทยุได้ด้วย นอกจากเพลงในเครื่อง
- Nike+ มีตัวรับสัญญาณกับอุปกรณ์เสริม Nike+ ในตัว ให้คุณเก็บสถิติการออกกำลังกายได้ในตัว
- หน้าตาเมนูการใช้งานแบบเดียวกับ iOS ที่สามารถจัดแต่งเมนูตามที่คุณต้องการได้ พร้อมโปรแกรมเสริมเช่นนาฬิกา (น่าจะมีเครื่องคิดเลขมาให้อีกตัวนะ :-P )
ด้านบนจะเป็นปุ่มเร่งลดเสียง และปุ่มเปิดปิดเครื่อง
ด้านล้างเป็นช่อง Dock Connector และช่องสำหรับเสียบหูฟัง
ถึงแม้ตัวเครื่องจะมีขนาดเล็กลงมาก แต่ต้องขอบคุณ Apple ที่ยังคงใช้ Dock Connector แบบเดิม ทำให้เราสามารถนำ iPod nano ไปใช้กับอุปกรณ์เสริมเดิมๆ สำหรับ iPod ได้
เริ่มการใช้งานโดยการเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์และเปิดโปรแกรม iTunes หลังจากลงทะเบียนตัว iPod เรียบร้อย iTunes ก็จะให้คุณตั้งชื่อเครื่องและเลือกเมนูภาษาที่จะใช้งาน iPod ซึ่งมีภาษาไทยด้วย
คราวนี้มาดูการใช้งานกันบ้าง ต้องบอกก่อนเลยว่า หน้าจอ iPod nano มีขนาดเล็กก็จริง แต่ก็ใช้งานได้สะดวก ถึงแม้จะมีนิ้วใหญ่เป็นพิเศษแบบผมก็ตาม อาจจะต้องทำความคุ้นเคยเล็กน้อย โดย iPod มีเมนูสำหรับเลือกเล่นเพลงให้คุณเลือกแล้วไม่ว่าจะเป็นการเลือกเล่นเพลงจาก Play list ที่คุณทำไว้แล้ว หรือจะเลือกจากชื่อศิลปิน Albums Songs Genes Composers หรือจะให้เครื่องเลือกมาให้ฟังจาก Genius Mixes เมื่อเลือกเพลงที่จะเล่นได้ เครื่องก็จะเล่นเพลงนั้นและแสดงหน้าปกของเพลงนั้นขึ้นมาให้ดู คุณสามารถแตะที่หน้าจอเพื่อเลือกดูรายละเอียดของเพลง เลือกเล่นเพลงถัดไปหรือก่อนหน้านี้ รวมทั้งตั้ง Rating ของเพลงนั้น ถ้าคุณเลือกเล่นตาม Albums เครื่องก็จะแสดงรายชื่อ Albums ในเครื่องพร้อมปกให้คุณเลือก สังเกตด้านขวาจะมีตัวหนังสือ A – Z# เพื่อให้คุณแตะเลื่อนไปตามตัวอักษรที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว แต่ยังไม่มีระบบ Search และเนื่องจาก iPod nano ใหม่มีระบบ Accelerometer ที่ให้คุณเขย่าตัวเครื่องเพื่อเปลี่ยนเพลงได้ ตัวแบตเตอรี่นั้น Apple อ้างว่าสามารถเล่นเพลงต่อเนื่องได้นานถึง 24 ชั่วโมง
iPod nano ไม่สามารถเล่นวิดีโอได้ เนื่องจากหน้าจอมีขนาดเล็กคงไม่สะดวกที่จะดูวิดีโอนัก แต่ยังคุณคุณสมบัติการเล่นภาพนิ่งได้ คุณสามารถเลือก Sync ภาพจาก iPhoto ในเครื่องได้ โดยโปรแกรมจะแสดงรายชื่อ Photo Albums ให้คุณเลือกดู หรือสั่งให้เล่นเป็น Slide Show ได้ ใครที่หนีบติดเสื้อแล้วเปิด Slide Show ไปก็เท่ไปอีกแบบนะครับ การควบคุมการเล่นภาพสามารถใช้นิ้วลากเลื่อนเพื่อเลื่อนภาพที่ต้องการ แตะสองครั้งเพื่อซูมเข้าไปในภาพได้หนึ่งระดับ แตะสองครั้งอีกที เพื่อเป็นการซูมออกมา คุณไม่สามารถใช้สองนิ้วขยายซูมภาพได้ แต่สามารถใช้สองนิ้วหมุนทั้งหน้าจอ หรือภาพก็ได้
การฟังวิทยุบน iPod nano ใหม่ก็สะดวกดี สามารถเลือกให้เครื่องจูนหาคลื่นแบบอัตโนมัติ หรือจะเลื่อนแถบด้านล่างที่เป็นรูป scale คลื่นวิทยุ เพื่อไปยังคลื่นที่ต้องการแบบเร็วๆ ถ้าต้องการบันทึกคลื่นนั้นๆ ไว้ในรายการโปรดก็ทำได้โดยการกดปุ่มรูปดาวทางด้านซ้ายล่าง ส่วนปุ่มรูป i ทางด้านขวาล่างจะใช้เรียกเมนูเสริมขึ้นมาใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นเมนูให้ scan หาคลื่นแบบอัตโนมัติ หรือรายชื่อคลื่นโปรด รงทั้งการตั้งค่าระบบ Live Pause ที่จะบันทึกบางส่วนของรายการวิทยุที่คุณกำลังฟัง และถ้าคุณต้องการย้อนกลับไปฟังก็สามารถทำได้
iPod nano มีโปรแกรม Voice Memo สำหรับบันทึกเสียง โดยจะบันทึกเสียงในระบบ stereo 128kbps AAC files ที่ 44.1kHz ซึ่งจะใช้เนื้อที่ 1MB ต่อ 1 นาที สามารถ sync บันทึกไปยัง iTunes Library บนเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ รวมทั้งเลือกฟังและลบบันทึกที่ต้องการได้ โปรแกรมนาฬิกาก็เท่ดีครับ บางคนเอาไปติดกับสายรัดข้อมือ ทำให้ iPod nano กลายเป็นนาฬิกาข้อมือไฮเทคไปเลย โดยตัวโปรแกรมนาฬิกานอกจากจะแสดงเวลา ซึ่งสามารถตั้งค่าได้ว่าจะให้หน้าปัดสีดำหรือสีขาวแล้ว ยังสามารถใช้เป็นนาฬิกาจับเวลาได้ด้วย ส่วนการใช้งานคู่กับ Nike+ ซึ่งต้องติดตั้งตัวส่งสัญญาณที่รองเท้าก่อน ส่วนตัวรับสัญญาณนั้นติดตั้งไว้ในตัว iPod nano เรียบร้อยแล้ว โดยคุณต้องตั้งค่าน้ำหนัก โปรแกรมก็จะบันทึกสถิติการออกกำลังกายของคุณ รวมทั้ง calories ที่คุณเผาผลาญไป