วันอาทิตย์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2553

Apple เปิดตัวกองทัพ iPod ใหม่ iTunes 10, Apple TV และ iOS 4.1 4.2

Apple ขนทัพขบวนสินค้าและบริการ เตรียมวางจำหน่ายช่วงปลายปี เริ่มตั้งแต่ iPod Shuffle และ iPod nano ใหม่ ที่มีขนาดเล็กลงกว่าเดิม iPod Touch เพิ่มกล้องวิดีโอสนับสนุน Facetime เช่นเดียวกับ iPhone 4 รวมทั้ง Apple TV ใหม่เล็กลง ราคาถูกเพียง $99 USD

Apple Special Event เปิดตัวระบบปฎิบัติการตัวใหม่ iOS 4.1 ที่แก้ข้อบกพร่องทั้งหลาย ที่รายงานเข้ามาจะระบบปฎิบัติการตัวเก่าอย่าง 4.0.x ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Bluetooth, WiFi หรือ เครื่อง iPhone 3G ที่ทำงานได้ช้า

นอกจากนี้ยังเพิ่ม Effect ภาพแบบ HDR (High Dynamic Range) คือระบบที่จะถ่ายภาพหลายมากกว่า 3 ภาพในสภาพแสงต่างกันมาซ้อนทับกัน เพื่อให้ได้ภาพที่มีสภาพแสงสมบูรณ์สุด

Game Center ที่จะมีใน iOS 4.1 เป็นเหมือน Server กลางที่ช่วยให้คุณเล่นเกมกับเพื่อนผ่าน Internet ได้ทั่วโลก ต่อไปนี้การเล่นเกมของคุณก็จะท้าทายมากขึ้น นึกภาพเล่นเกม Angry Bird กับเพื่อนทั่วโลก คงสนุกน่าดู

iOS 4.1 จะพร้อมให้ Download ในอาทิตย์หน้าสำหรับ iPhone และ iPod Touch ยังไม่มีสำหรับ iPad

ส่วนผู้ใช้ iPad จะต้องรอ iOS 4.2 ที่จะปล่อยออกมาให้ update ฟรีสำหรับ iPhone, iPod Touch และ iPad ในเดือน พฤษจิกายนนี้ คุณสมบัติของ iOS 4.2 ก็จะรวมคุณสมบัติที่กล่าวมาทั้งหมดของ iOS 4.1 และเพิ่มคุณสมบัติเด่นดังต่อไปนี้

•Supports iPad (with Multitasking)
•Wireless printing
•AirPlay and AirTunes

AirPlay และ AirTunes เป็นระบบที่ให้คุณ Streaming Video จากอุปกรณ์ใน network ไปแสดงได้อย่างง่ายดาย แค่กดปุ่มแล้วเลือกว่าจะส่งวิดีโอไปเล่นที่เครื่องไหน ใน presentation จะเป็นการส่งวิดีโอจาก iPad ไปเล่นยัง Apple TV

iTunes 10 ใหม่ ที่เปลี่ยนตั้งแต่ Icon ที่เอารูปแผ่น CD ออกไป เพราะปัจจุบันการซื้อแผ่น CD น้อยลงทุกที ส่วนหน้าตาโปรแกรมก็เปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ดูสะอาดตามากขึ้น ปรับการแสดงรายชื่อเพลงในแบบ List ให้แสดงปก Album ได้ด้วย และเพิ่ม Ping ที่เป็น Social Network สำหรับผู้ใช้ iTunes ให้คุณติตตามศิลปินที่ชื่อชอบ รวมทั้งเพื่อนของคุณเอง ว่าตอนนี้มีเพลงอะไรน่าฟัง ช่วยให้คุณเลือกซื้อเพลงได้ถูกใจยิ่งขึ้น รวมทั้งสามารถดึงเพื่อนจาก Facebook มาติตตามได้ด้วย

คุณสมบัติเด่นของ iTunes 10

•Social music discovery (Ping)
•Follow and be followed
•Circle of friends
•Post your thoughts & opinions
•Custom song & album charts
•Over 17,000 concert listings
•160 million iTunes users in 23 countries

iPod Shuffle ใหม่ ที่ดูเหมือนจะย้อนกลับไปใช้รูปแบบเดิม คือมีปุ่ม Click Wheel ให้กดเลือกเพลง (คงโดนบ่นมาเยอะเรื่องความไม่สะดวกในการควบคุมการเล่นเพลงผ่าน หูฟัง Remote) มีเพียงขนาดเดียวให้เลือกใช้คือ 2GB ตั้งราคาไว้ที่ 2000 บาท มีขนาดเล็กเพียง 1.14 x 1.24 นิ้ว เล่นเพลงได้ต่อเนื่องนาน 15 ชั่วโมง ตัวเครื่องแบบคลิบ สามารถหนีบกับเสื้อผ้าหรือสายกระเป๋าได้เลย


ที่เปลี่ยนไปเลยคงเป็น iPod Nano ที่ขนาดนั้นคล้ายกับ iPod Shuffle ใหม่ คือเป็นลักษณะคลิบหนีบ เพียงแต่เพิ่มหน้าจอแบบสัมผัสขนาด 1.54 นิ้ว ความละเอียด 240 x 240 พิกเซล แบบ multi-touch ตัดกล้องออกไป และไม่สนับสนุนการเล่นไฟล์วิดีโอ แต่สามารถเล่นไฟล์ภาพนิ่งได้ สามารถเล่นเพลงได้ต่อเนื่องนาน 24 ชั่วโมง มีสองขนาดให้เลือกคือ 8GB ราคา 5,400 บาท และ 16GB 6,600 บาท มี 7 สีให้เลือก มีวิทยุในตัวและสนับสนุน Nike+


iPod Touch ใหม่ ที่ออกมาตามข่าวลือ คือมีคุณสมบัติเช่นเดียวกับ iPhone 4 ใช้ CPU ตัวเดียวกัน หน้าจอแบบ Ratina Display ความละเอียดสูง 960×640 พิกเซล สามารถใช้งานโปรแกรม Facetime ได้ รวมทั้งเพิ่มกล้องดิจิตอลทั้งด้านหน้าและด้านหลัง บันทึกวิดีโอความละเอียดสูง HD 720p ที่แตกต่างจาก iPhone 4 คงเป็นเรื่องของระบบโทรศัพท์ และระบบนำทางผ่านดาวเทียม แต่ iPod Touch ก็มีความจุให้เลือกใช้สูงสุดถึง 64GB และตัวเครื่องที่บางลงกว่ารุ่นที่แล้วด้วยซ้ำ

iPod Touch ใหม่มีสามขนาดให้เลือกใช้ 8GB ราคา 7,900 บาท 32GB ราคา 10,400 บาท และ 64GB ราคา 13,900 บาท (ข้าม 16GB ไป)



สุดท้ายที่มีการเปิดตัวคือ Apple TV ใหม่ ที่ถึงแม้จะไม่เป็นไปตามข่าวลือว่า Apple จะใส่ iOS เข้ามาไว้ใน Apple TV แต่ตัวขนาดที่เล็กลงกว่าเดิมเหลือแค่ 1 ใน 3 และราคาเพียง $99 USA ก็ทำให้ดูน่าสนใจไม่น้อย โดย Apple TV ใหม่มาในตัวเครื่องสีดำด้าน ขนาดเล็กที่คุณสามารถถือไว้ในฝ่ามือได้เลย มีช่องต่อ HDMI และ Optical Out สนับสนุนระบบ WiFi 802.11n ไม่มี storage ภายใน เพราะ Apple ไม่ต้องการให้คุณวุ่นวายกับการจัดเก็บข้อมูลอีกต่อไป การเล่นภาพ เพลงหรือวิดีโอ จะมาจากการ Streaming จากเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณเองเท่านั้น ส่วนการซื้อวิดีโอจาก iTunes ก็จะเปลี่ยนเป็นการเช่าแทน โดยปรับราคาลงมาเหลือเพียง $0.99 USD เท่านั้น ก็เป็นไอเดียที่น่าสนใจ เพราะคุณไม่จำเป็นต้องสะสมหนังอีกต่อไป Apple จะทำหน้าที่รวบรวมหนังไว้ให้คุณเช่า ทั้งภาพยนต์และทีวีซีรี่ย์ต่างๆ แถมยังเป็นแบบ HD ด้วย ตัดปัญหาต้องซื้อภาพยนต์ราคาแพง จัดเก็บให้วุ่นวายออกไป อยากดูก็แค่กดเลือกจ่ายเงินแค่ $0.99 USD ต่อเรื่องเท่านั้น

Credits : http://gadget4thai.com/?p=1451

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น